ในบริเวณสวน มีบ้านจำลองที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเคยประทับแต่ครั้งทรงพระเยาว์เป็นเรือนแถวที่จำลองมาเพียง
1 ห้อง ด้านในบ้านจำลองจัดองค์ประกอบตามหนังสือ
”แม่เล่าให้ฟัง” พระนิพนธ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กลมหลวงนราธิวาสราชชนครินทร์
ซึ่งคณะอนุกรรมการฝายออกแบบจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ภายในอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมอบหมายให้นางสาวอัจฉรา
ถาวรมาศ มัณฑนากร กรมศิลปากร ดำเนินการทำหุ้นบ้านจำลอง
นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายทอดพระเนตร
เพื่อขอกระบรมราชวินิจฉัย ในครั้งแรก
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชะนีมีรับสั่งว่า “บ้าน” ที่ทรงเคยประทับนั้นไม่ใหญ่โตเหมือนแบบที่มาขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวาย เมื่อกรมศิลปากรแก้ไขถูกต้องตามพระราชประสงค์แล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริให้จัดสร้างอาคารจำลองที่ประทับหลังจากนี้แยกต่างหากอีกหลังหนึ่ง
เนื่องจากแนวคิดเดิมที่จำกำหนดจัดแสดงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์นั้น
สัดส่วนของบ้านไม่ใกล้เคียงกับของเดิม มุมมองไม่ชัดเจน
“บ้าน” ในหนังสือ “แม่เล่าให้ฟัง”
พระนิพนธ์ของสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชครินทร์
ซึ่งทรงกล่าวถึงนั้น “...เมื่อจำความได้แม่ก็อยู่ที่นนบุรีแล้ว
ที่ซอยซึ่งปัจจุบันเป็นซอยวัดอนงค์ “บ้าน”
จะเป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่ก่อด้วยอิฐ หลังคาเป็นกระเบื้องและประกอบด้วยหลายชุด
(Unit) ด้านหนึ่งของ “บ้าน”
จะเป็นส่วนหนึ่งของ “บ้าน”
มี 4-5 ชุด ซึ่งมีคนอยู่
อีกด้านหนึ่งพังไปแล้วและร้าง “บ้าน”
ที่อยู่นั้นเก่าพอใช้และอยู่ในสถานที่ไม่ดี เพราะไม่มีการซ่อมแซมเลย บ้านนั้นเป็นบ้านเช่า
แต่เช่าเพียงกำแพง ผนังและหลังคา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไม้เช่นพื้นนั้นผู้เช่านำมาวางเอง...”
และหน้าบ้านมีระเบียง พื้นไม่ปิดข้างๆ
และมีหลังคามุงจาก ส่วนนอกก่อนจะถึงถนนเป็นอิฐและจึงเป็นถนน
เมื่อเข้าไปในบ้านบ้านแล้วจะมีห้องโล่ง ๆ ด้านขวามือมียกพื้นเป็นไม้ทั้งสองห้อง ห้องพระและห้องประกอบอาชีพของพ่อแม่
ทุกเช้าผู้ใหญ่จะถวายข้าพระพุทธรูปและหลังเที่ยงแม่จะเป็นผู้สวด
“เสสังมังคะลังจายามิ” เพื่อลาของถวายเพื่อนำของบรรจุอยู่ในถ้วยชามเล็ก
ๆ มากิน ถัดไปซึ่งมีห้องเป็นห้องนอนและข้างหลังจะมีห้องครัวยาวตลอด
ซึ่งกันด้วยกำแพงนี้มีที่โล่ง ๆ ซึ่งจะไปถึงได้ถ้าอ้อมไปเพราะทางไม่มีประตูดอก
ในบ้านไม่มีห้องน้ำ การอาบน้ำนั้นอาบกันที่บ้าน
ตุ่มน้ำจะตั้งที่ระเบียงหรือไปอาบกันที่คลองสมเด็จเจ้าพระยา...”
ลักษณะบ้านจำลองที่สร้างขึ้น ณ
มุมหนึ่งของสวนแห่งนี้ ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน
มีชาน ระเบียงด้านหน้าบ้าน
และด้านข้างปูด้วยไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผา
ชั้นลดหลังคาด้านหน้ามุงจาก ผนังด้านข้างกรุด้วยกระจกใส
เพื่อให้ผู้เข้าชมมองเห็นภายในได้ ด้านข้างอาคารมีการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ของเดิมไว้
หลังคาจึงเว้นสำหรับต้นไม้ทำลุขึ้นไป มีทางเข้าบ้าน
ประตูด้านหน้าทางเดียว เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วจะเห็นทางเดินถึงหลังบ้าน
ด้านขวามียกพื้นไม้และใช้ไม้ปิดแบ่งห้องเป็น 3 ตอน มีห้องพระและห้องทำทองซึ่งเป็นที่ประกอบอาชีพของพระชนกชู
ถัดไปเป็นห้องนอน ด้านหลังเป็นห้องครัวตลอดกำแพงหลังบ้าน
ภายในบ้านนายสมชาย ณ นครพนม ภัณฑรักษ์
ผู้รับผิดชอบในการจัดแสดง ได้จัดหาสิ่งของเครื่องใช้มาจัดแสดงแต่ละห้องตามสภาพความเป็นอยู่ในช่วงปลายรัชกาลที่
5-รัชกาลที่ 6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น